
คุณรู้สึกบ้างไหมว่า “หลังๆ มานี้ อาการผมร่วงเปลี่ยนไปนะ”
ในบางครั้งอาการผมร่วงของเราอาจจะถูกมองข้าม ทำให้ไม่สามารถพิจารณาได้ว่าอาการผมร่วงแบบนี้ เป็นสัญญาณอันตรายอย่างหนึ่งหรือไม่
ในบทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะอาการผมร่วงที่เป็นสัญญาณอันตราย เรียนรู้สาเหตุและวิธีการรักษา เมื่อเราสามารถรู้ถึงการผมร่วงที่เป็นอันตรายแล้ว จะทำให้รู้ถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว และดำเนินการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ประเภทของผมร่วง
เส้นผมของเรา มีสิ่งที่เรียกว่า “วงจรชีวิตของเส้นผม” วงจรที่ว่านี้ คือช่วงเวลาที่เส้นผม “งอกออกมา หยุดเติบโต หลุดร่วง แล้วงอกขึ้นมาใหม่สลับกันเป็นวงจร
กล่าวคือ เส้นผมแต่ละเส้น มีอายุขัยของตัวเอง ดังนั้น การหลุดร่วงจึงเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติของเส้นผม แม้ว่าจะเป็นการสระผม หรือว่าใช้หวีสางผม ก็อาจเกิดการหลุดร่วงได้เป็นปกติ ซึ่งไม่ถือเป็นการผิดปกติที่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากผมที่หลุดร่วงไปตามธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีผมหลุดร่วงประเภทที่ผิดปกติอยู่ด้วย ซึ่งผมร่วงทั้ง 2 ประเภทจะมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ควรศึกษาวิธีการแยกแยะไว้ให้ดี
1. อาการผมร่วงตามธรรมชาติ
หากเป็นเส้นผมที่หลุดร่วงเองตามธรรมชาติ ผมที่ร่วงจะมีลักษณะคล้ายไม้ขีดไฟ คือช่วงปลายจะมีหัวกลมๆ เล็กน้อย
นอกจากนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีเส้นที่อ้วนหนา เหยียดตรง (ตามสภาพเส้นผมธรรมชาติ) และมีสีดำเข้ม (ตามสภาพเส้นผมธรรมชาติ)
และมักจะมีความยาวในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นเส้นผมที่เจริญเติบโตเต็มที่ภายในวงจรชีวิตของมันเองแล้ว
นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้จากปริมาณของเส้นผมที่ร่วงต่อวัน ใน 1 วัน คนเราสามารถมีผมร่วงได้ในอัตราปกติอยู่ที่ประมาณ 50-100 เส้น ประกอบกับการสังเกตตัวเองว่าไม่ได้มีปริมาณผมร่วงเพิ่มขึ้นเยอะกว่าปกติ ก็อาจพิจารณาได้ว่าเป็นอาการผมร่วงปกติตามธรรมชาติ
2. อาการผมร่วงที่ผิดปกติ
อาการผมร่วงที่ผิดปกติก็คือการผมร่วงที่เกิดจากความผิดปกติบางอย่างนั่นเอง
เส้นผมที่ร่วงผิดปกติอาจมีลักษณะลีบที่ปลายผม ไม่มีความกลมมนเหมือนผมร่วงตามธรรมชาติ บางครั้งอาจมีตุ่มไขมันสีขาวติดออกมาด้วย สภาพเส้นผมจะเป็นเส้นอ่อนๆ บางๆ ไม่ค่อยเหยียดตรง ส่วนสีผมนั้นอาจดูยากในผู้ที่ทำสี เนื่องจากเส้นผมที่ร่วงจะเป็นสีออกน้ำตาลแดง ผู้ที่ไม่ได้ย้อมผมจะเห็นการเปลี่ยนของสีได้ชัดเจน
กรณีของผมที่ร่วงแบบผิดปกตินั้น จะเป็นเส้นผมที่ยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ในวงจรของเส้นผม จึงมักเป็นเส้นที่สั้นๆ และมีจำนวนร่วงมากอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าการนับเส้นผมที่ร่วงจะแทบเป็นไปไม่ได้ แต่หากมองเห็นรู้ได้ว่ามากผิดปกติ ก็ให้สันนิษฐานไว้ว่าเป็นผมร่วงที่ไม่ปกติ
ผมร่วงที่เป็นอันตรายคือ?

ลักษณะของผมร่วงที่เป็นอันตราย ก็คือผมที่ไม่ได้หลุดร่วงเองจากธรรมชาติวงจรเส้นผม อันเกิดมาจากสาเหตุความผิดปกติอะไรบางอย่างในร่างกาย
วิธีการดูว่าเส้นผมแบบไหนเป็นผมร่วงแบบที่เป็นอันตรายนั้น สามารถดูได้จากรากผมเป็นอันดับแรก เพราะผมที่ร่วงผิดปกติจะร่วงไปในขณะที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ รากผมจึงมีขนาดเล็กมากๆ หรือไม่ได้ติดออกมาด้วยเลย
หลายๆ คนอาจเข้าใจว่าปริมาณเส้นผมที่ร่วงเยอะเป็นจุดสังเกตุ แต่ที่สำคัญกว่านั่นคือรากผมต่างหาก เพราะรากผมที่ปกตินั้นจะมีความพองเป็นกระเปาะ มีสีขาว หรือสีดำเฉพาะตัว
หากมีผมร่วงมากจนผิดสังเกตุ อาจมีสาเหตุมาจาก AGA (พันธุกรรมผมร่วง) หรืออาการป่วยบางอย่าง ที่ควรต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว
สาเหตุของการเกิดผมร่วงที่เป็นอันตราย
เรามาทำความเข้าใจกับสาเหตุการเกิดผมหลุดร่วงแบบที่อันตรายกันก่อน สาเหตุหลักๆ ที่อาจเป็นต้นเหตุ มี 5 ประการดังนี้
- วิถีชีวิตที่แปรปรวนขาดสมดุล
- ความเครียด
- ผมร่วงแบบพันธุกรรม หรืออาการป่วยแบบผมหลุดร่วงเป็นหย่อมๆ
- สระผมบ่อยเกินไป
- ผมเสียเนื่องจากความร้อนและการทำสี
การค้นหาสาเหตุทำให้เราหาวิธีป้องกันได้ดี และถือเป็นโอกาสในการปรับวิถีการดำรงชีวิต ดังนั้น เราลองมาศึกษากันดูทีละข้อ
① วิถีชีวิตที่แปรปรวน ขาดสมดุล
การนอนหลับหรือออกกำลังกายไม่เพียงพอ หรือโภชนาการสารอาหารขาดสมดุลทำให้เส้นผมเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ไม่สามารถซ่อมแซมหนังศีรษะกลับสู่สภาพเดิมได้ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผมหลุดร่วงที่อันตราย
การนอนน้อยเกินไป หรือนอนอย่างไม่มีคุณภาพ จะทำให้ร่างกายไม่สามารถหลัง Growth Hormones ได้มากเพียงพอ รวมถึงหากไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ก็จะไม่ค่อยมีการไหลเวียนของโลหิตที่ดี ทำให้สารอาหารไม่สามารถถูกลำเลียงไปที่รากผม เพื่อบำรุงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง
ในด้านโภชนาการอาหาร หากกำลังมีการอดอาหาร หรือควบคุมอาหารบางประเภท อาจทำให้ขาดสารอาหารบางชนิด ซึ่งทำให้เห็นสาเหตุของรูขุมขนฝ่อ การทานอาหารที่มีไขมันสูงก็จะส่งผลต่อการขับไขมันส่วนเกินออกทางผิวหนังเช่นกัน ทำให้สุขภาพหนังศีรษะมีความมันเกินไป ไม่มีสมดุลความชุ่มชื้นที่ดี
② ความเครียด
ความเครียดที่มากเกินไปจะส่งผลเสียต่อการไหลเวียนโลหิต และการขับไขมันทางผิวที่ผิดปกติ การลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงเส้นผมจึงทำได้ไม่ดี ไขมันที่อุดตันในรูขุมขนจะส่งผลต่อการเติบโตของเส้นผม และเป็นสาเหตุทำให้วงจรเส้นผมหยุดชะงัก และมีผลกระทบอื่นๆ ตามมา
③ ผมร่วงแบบพันธุกรรม หรืออาการป่วยแบบผมหลุดร่วงเป็นหย่อมๆ
ผมร่วงแบบพันธุกรรม หรืออาการป่วยแบบผมหลุดร่วงเป็นหย่อมๆ เป็นอาการที่มักพบในผู้ใหญ่เพศชาย และมีสาเหตุต่างๆ มาจาก พันธุกรรม หรือการใช้ชีวิต เป็นต้น
ผมร่วงแบบพันธุกรรมจะส่งผลให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง ทำให้ผมหลุดร่วงก่อนเวลาที่จะสามารถเติบโตได้เต็มที่ ทั้งนี้ เป็นอาการที่จะลุกลามไปเรื่อยๆ ดังนั้น จึงไม่สามารถเห็นได้ชัดในวันใดวันหนึ่ง แต่ส่วนมากมักจะค่อยๆ รู้สึกตัวอยู่บ้าง
นอกจากนั้น ความเครียดสะสมมากเกินไปจะทำให้เกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ ที่มีความเฉียบพลันมากกว่าแบบ AGA เมื่อรู้ตัวอีกทีก็มักจะผมร่วงหายไปมากแล้ว
④ สระผมบ่อยเกินไป
การรักษาความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การสระผมบ่อยเกินไป จะเป็นการชะล้างไขมันออกมากเกินไป ทำให้เสียสุขภาพหนังศีรษะ
เมื่อน้ำมันธรรมชาติเคลือบผิวหนังลดน้อยลง จะทำให้ผิวแห้งขึ้น เป็นสาเหตุของรังแค และอาการคัน ในขณะเดียวกัน ผิวหนังก็จะพยายามปรับสภาพตนเองด้วยการเพิ่มปริมาณการขับไขมันออกมา เพื่อเติมเต็มส่วนที่ถูกชะล้างออกไป ส่งผลให้หนังศีรษะมีความมันเกินไป
การใช้แชมพูที่มีฤทธิ์ทำความสะอาดแรงๆ สระผมมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน แล้วล้างฟองออกไม่หมด อาจทำให้ผิวหนังศีรษะเกิดการอักเสบได้
⑤ ผมเสียเนื่องจากความร้อนและการทำสี
ความร้อน และการย้อมทำสี เป็นสาเหตุของผมหลุดร่วงประเภทที่เป็นสัญญาณอันตราย การใช้ไดร์เป่าผมใกล้จนเกินไป ความร้อนจากไดร์ก็สร้างผลเสียได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ยาย้อมสีผม มีฤทธิ์เป็นด่าง และมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์ในการกัดเส้นผม การใช้สารเคมีดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อหนังศีรษะ แต่ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด หากหนังศีรษะมีความผิดปกติแล้วก็จะเป็นสาเหตุของอาการคันและอักเสบได้
วิธีดูแลรักษาผมร่วงประเภทที่เป็นอันตราย
ข้อแนะนำถึงวิธีการดูแลรักษาผมหลุดร่วงประเภทที่อันตราย มี 5 ข้อดังนี้
- ปรับปรุงวิธีการดำเนินชีวิต
- บรรเทาความเครียด
- เข้ารับการรักษาที่คลินิก
- ทบทวนวิธีการดูแลผม
- ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปลูกผม
ที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการที่สามารถเริ่มปฏิบัติได้ทันที สำหรับใครที่กำลังมีความกังวลผมร่วง หรือมีปัญหาผมหลุดร่วง ลองนำไปใช้กันดู
① ปรับปรุงวิธีการดำเนินชีวิต
สิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตที่ต้องย้อนทบทวนเป็นหลักเลยก็คือ การนอนหลับ และ โภชนาการอาหาร
เราควรที่จะใส่ใจนอนหลับให้เป็นเวลา เป็นประจำทุกวัน และมีระยะเวลานอนหลับที่มากเพียงพอ รวมถึงต้องงดใช้หน้าจอที่มีแสงสีฟ้า เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน เพื่อให้ได้คุณภาพการนอนที่ดีที่สุด
พิจารณาถึงโภชนการอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน ว่าโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ หรือสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับนั้นเพียงพอและได้สมดุลหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีน เนื่องจากในเส้นผมนั้นมีส่วนประกอบหลักที่สร้างจากโปรตีนถึง 80-90%
หากใครที่ไม่สามารถได้รับสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวันจากการทานอาหารมื้อหลัก ก็สามารถพิจารณาหาอาหารเสริมทานเฉพาะตัวได้เช่นกัน
② บรรเทาความเครียด
เมื่อมีความเครียดสะสม ควรหาทางระบายความเครียดออกบ้าง โดยเลือกวิธีการที่เข้ากับความชอบของตน เช่น ทำงานอดิเรกที่ชอบ ออกกำลังกาย
ในยุคปัจจุบันที่เป็นสังคมแห่งการแข่งขันนี้ การจะทำให้ปราศจากความเครียดเลย คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เมื่อรู้สึกตัวว่ามีความเครียด ควรหมั่นหาทางขจัดระบายความเครียดออกบ้าง
③ การเข้ารับการรักษาที่คลินิก
การเข้าคลินิกเพื่อรักษาปัญหาผมร่วงบาง ถือเป็นการดูแลรักษาที่ได้ผลดี เนื่องจากคลินิกจะวินิจฉัยและจ่ายยา รวมถึงฉีดยา หรือทำหัตถการปลูกผมตามความประสงค์ของผู้ป่วยได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีวิธีการหลากหลายรูปแบบ
อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่คลินิก และค่ายาต่างๆ เหล่านี้มักอยู่นอกเหนือระบบประกันสุขภาพ ทำให้ผู้เข้ารับบริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่สูง และควรเข้าพบดูแลอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรขาด หรือหยุด ระหว่างการรักษา จึงควรไตร่ตรองให้ดีก่อนว่า สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้จนจบคอร์สได้หรือไม่
④ ทบทวนการดูแลผม
เมื่อเริ่มเห็นอาการผมร่วงที่ผิดปกติ หนึ่งในวิธีการแก้ไขที่สำคัญที่สุดก็คือ การหันกลับมาทบทวนดูแลวิธีการดูแลผมที่ทำอยู่ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น สระผมถูกวิธีหรือไม่ การสระผมนั้นควรสระแค่เพียงวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว หากสระผมบ่อยครั้งในหนึ่งวัน น้ำมันธรรมชาติที่ขับออกมาเพื่อเคลือบผิวจะถูกชะล้างออกมากเกินไป อันเป็นสาเหตุให้หนังศีรษะแห้ง และเกิดรังแค
ไม่ควรใช้เล็บเกาหนังศีรษะแรงๆ เวลาสระผม เพราะอาจเกิดบาดแผล ที่ทำให้เกิดการอักเสบ แต่แบคทีเรียก่อตัวได้ ใครที่ชอบเกาหัวแรงๆ ตอนสระผม ควรเปลี่ยนมาใช้นิ้วนวดวนอย่างอ่อนโยนแทน
นอกจากนี้ ควรทบทวนกิจกรรมอื่นๆ ที่กระทำต่อเส้นผมของเราด้วย เช่น การใช้ไดร์เป่าผม ควรใช้ความร้อนที่ไม่สูงเกินไป ไม่เป่าผมนานเกินไป การย้อมสีผม การดัดหรือยืดผม ก็ควรลดความถี่ลงจากเดิม
⑤ ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปลูกผม
เมื่อสภาพหนังศีรษะเสียสมดุล จะเป็นสาเหตุในการเกิดผมร่วงประเภทเป็นอันตรายได้ จึงควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปลูกผมเพื่อช่วยปรับสภาพสมดุลสภาพแวดล้อมของหนังศีรษะให้กลับมาดีดังเดิม
ในผลิตภัณฑ์น้ำยาปลูกผมนั้นยังมีสารที่ให้ผลลัพธ์ในเรื่องของการช่วยเสริมการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของเส้นผมโดยตรง จึงสามารถช่วยเรื่องผมหลุดร่วงที่ผิดปกติได้ในระยะยาว
〇 จุดเด่นของ POLYPURE EX

เมื่อกล่าวถึง “น้ำยาปลูกผม” ในท้องตลาดปัจจุบันที่มีจำหน่ายอยู่ก็มากมายหลากหลายชนิด ทั้งยังมีสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน และปริมาณของสารประกอบที่ต่างกันไป หากใครที่ยังไม่รู้จะเลือกผลิตภัณฑ์ไหน เราขอแนะนำ โพลีเพียว อีเอ็กซ์ (POLYPURE EX)
โพลีเพียว อีเอ็กซ์ เป็นน้ำยาปลูกผมที่จะช่วยปรับสภาพหนังศีรษะและกระตุ้นการเกิดผมใหม่ ที่มีส่วนผสมเฉพาะของไบโอพัพส์ และสารไบโอโพลีฟอสเฟต นอกจากนี้ใน POLYPURE EX ยังมีสารสกัดที่โดดเด่นอื่นๆ ที่นิยมใช้กันในผลิตภัณฑ์เวชสำอางญี่ปุ่น ช่วยเติมความชุ่มชื้นบนหนังศีรษะและให้อาหารผม เช่น สารสกัดจากเซมบุริ สารสกัดโสมเกาหลี สารสกัดจากรากชะเอมเทศ และ Panthenyl Ethyl Ether เป็นต้น
นอกจากนี้ “โพลีเพียว อีเอ็กซ์” ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ มีตัวแทนจำหน่ายโดยตรงจากผู้ผลิตในประเทศญี่ปุ่น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าปลอม หรือสินค้าโก่งราคา อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และยิ่งประหยัดเมื่อซื้อเป็นชุด หรือจำนวนมาก
โพลีเพียว อีเอ็กซ์ 1 ขวดนั้น สามารถใช้ได้ 1-2 เดือนเลยทีเดียว เฉลี่ยแล้วใช้เพียงวันละ 33 บาทเท่านั้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อดูแลตัวเองที่คุ้มค่า เห็นผลในระยะยาว และสามารถใช้ได้ต่อเนื่อง ไร้ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
หากมีอาการผมร่วงแบบอันตราย ควรเริ่มดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
หากผมที่หลุดร่วงออกมา มีรากผมที่เล็กลีบมากๆ หรือไม่มีรากเลย อาจเป็นอาการผมร่วงที่เป็นอันตรายได้ และสันนิษฐานได้ว่ามีอะไรบางอย่างในร่างกายกำลังผิดปกติ จึงควรที่จะดูแลรักษาอย่างเร็วไว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงแย่ลงได้
อันดับแรกที่ควรดูแลเลยก็คือวิถีการดำเนินชีวิตประจำวัน และวิธีการดูแลรักษาเส้นผม นอกจากนี้ก็จะเป็นการดูแลเฉพาะทาง เช่นเข้ารับบริการที่คลินิกรักษาผมร่วง ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง
ใครที่อยากลองวิธีที่ง่าย และไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง สามารถเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปลูกก่อนได้ ซึ่งจะสามารถทำหน้าที่ปรับสภาพหนังศีรษะให้ดีขึ้น ช่วยให้เส้นผมเกิดใหม่ และบำรุงเส้นผมที่มีอยู่แล้วให้แข็งแรงมากขึ้นได้ด้วย
ควรดูแลเส้นผมและหนังศีรษะด้วยน้ำยาปลูกผม ควบคู่ไปกับการปรับวิถีชีวิตให้ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทานอาหารที่ดี และนอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียดสะสมอยู่บ่อยๆ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและได้ประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง